ประกันชีวิตก็มีหลายแบบ หลายอย่างให้เลือกซื้อ หากมีบุคคลอันเป็นที่รักที่ต้องดู หากเกิดไม่คาดฝัน จะได้ไม่ต้องเอาเงินส่วนอื่นๆ มาใช้ หากทำประกันทำไว้สักหน่อย อุ่นใจไว้นะครับ มีแล้วไม่ได้ใช้ กับ จะใช้แล้วไม่มี ลองพิจารณา บทความนี้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน
เนื้อหามีอะไรบ้าง
- วัตถุประสงค์ที่ต้องการอยากทำคืออะไร
- ตรวจสอบสวัสดิการที่มีอยู่
- สุขภาพท่านเป็นอย่างไร
- บริษัทประกัน จะรับประกันหรือไม่
- งบประมาณ
- อายุ
- เงื่อนไขของกรมธรรม์
วัตถุประสงค์ที่ต้องการอยากทำคืออะไร ??
ให้ดูว่าประกันเราต้องการความคุ้มครองแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น คุ้มครองกรณีเสียชีวิต, เจ็บป่วย อุบัติเหตุ, ต้องการเงินทุนสำรองไว้ใช้ยามเกษียณหรือไม่? พิจารณาส่วยนี้ แยกออกมาให้ชัด เรามาดูแต่ละแบบกันครับ

เพราะว่าประกันแต่ละแบบถูกออกแบบมาตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายนั้น เช่น
ต้องการทุนเกษียณ ก็ต้องทำประกันบำนาญ ที่การันตีเราจะได้เงินรายเดือนใช้ไปจนเราเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแบบประกันนะครับ
กรณีเสียชีวิต ประกันคุ้มครองกรณีเสียชีวิตทุกรณี รวมทั้งอุบัติเหตุ วัตถุประสงค์ อาจจะเป็นค่าจัดงานศพ, เงินก้อนสุดท้ายให้คนที่เรารัก ก็ต้องทำประกันคุ้มครองชีวิต+อุบัติเหตุ
มีห่วงสุขภาพ ก็ต้องทำประกันสุขภาพ อาจจะมีทั้งเหมาจ่าย จำกัดวงเงิน ผู้ป่วยใน(IPD) ผู้ป่วยนอก(OPD) ค่าหมอ ค่าผ่าตัด ค่ายากลับบ้าน ยาเฉพาะโรค วงเงินนี้เปรียบเสมือนวงเงินบัตรเครดิต ที่เราต้องจ่ายให้โรงพยาบาล
มีห่วงโรคร้ายแรง ประกันแบบนี้จะเป็น ตรวจเจอ จ่าย จบ หากตรวจเจอโรคร้ายแรง บริษัทประกันจะจ่ายให้เราโดยตรง จะได้รับเงินก้อน จะเหมาะกับ ประกันสุขภาพเพื่อมาบริหารควบคู่กัน
เช่น รักษาในโรงพยาบาลเสร็จแล้ว ต้องการกลับมาอยู่บ้าน เราก็ต้องรีโนเวท บ้านให้เหมาะสมกับผู้ป่วย หรือมียาที่ราคาแพงมากๆ ก็นำเงินก่อนนี้มาชำระได้อเช่น ค่ายามุ่งเป้า รวมทั้งบริหารค่าอื่นๆ เช่นค่าเดินทาง ค่าจ้างพยาบาล เป็นต้น
ตรวจสอบสวัสดิการที่มีอยู่

เช่น ประกันสังคม มาตรา 33, 39, หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ปัจจุบันกำลังมี 30 บาทรักษาทุกที่, ประกันชีวิต ประกันสุขภาพเดิมที่มีอยู่, รวมทั้งสวัสดิการบริษัท(ถ้ามี)
ให้มองดูว่า ประกันที่มีกับที่เราต้องการ มันคุ้มครองตามที่เราต้องการแค่ไหน แนะนำให้ใช้ร่วมกันก็ได้ สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด
เราจะให้ตัวแทนช่วยสรุปแบบประกันก็ได้เช่นกันนะครับ เราจะได้วางแผนให้คุ้มค่าเงินเรามากที่สุด ตรงกับเป้าหมาย วัตถุประสงค์อีกด้วย
สุขภาพท่านเป็นอย่างไร

ลองดูว่าท่านมีประวัติสุขภาพหรือไม่ แค่ไหน อย่างไร กรณีไม่มีประวัติสุขภาพก็บอกเลยว่าให้รีบทำนะครับ เพราะประกันจะมีระยะรอคอย ระยะห้ามเคลม อีก ควรรีบทำนะครับ เพื่อให้มีความคุ้มครองโดยไว
กรณีมีประวัติสุขภาพมาแล้ว ตอนกรอกเอกสารสมัครควรแจ้งตัวแทนให้ทราบทั้งหมด และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องด้วย เราจะต้องเตรียมข้อมูลประมาณนี้
เช่น อาการโรค ตรวจพบโรคนั้นเมื่อไหร่ (ให้ระบุเดือนกับปีก็ได้ หากไม่ทราบวันที่) ไปรักษาที่โรงพยาบาลอะไร แล้วมีการติดตามอาการของโรคหรือไม่
ยกตัวอย่าง ตรวจพบภูมิแพ้ เมื่อ 28 เมษายน 2567 ที่โรงพยาบาล A มีการนัดติดตามอาการของโรคครั้งถัดไป อีก 3 เดือนข้างหน้า (สิงหาคม2567)
เพราะว่าประวัติของสุขภาพที่เรามีนั้นมีผลต่อการพิจารณา อาจจะโดยเพิ่มเบี้ย หรือไม่เพิ่มเบี้ย ก็ได้
บริษัทประกัน จะรับประกันหรือไม่ มี 4 กรณีดังนี้
- ไม่เพิ่มเบี้ย กรณี สุขภาพดี เบี้ยก็จะอยู่ที่อายุ อาชีพแทนตามตารางในแบบที่ตัวแทนเสนอเลยครับ
- เพิ่มเบี้ย ก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ เพิ่ม 50%, 75%, 100%, 125%, 150%, 200% ไปจนถึง 400% ขึ้นอยู่กับสุขภาพเรานะครับ
- บริษัทรับประกัน แต่มีข้อยกเว้น ไม่รับประกันโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน นอกจากนั้นรับประกันทั้งหมด
- หรือแบบแย่สุดไม่รับประกันลูกค้ารายนี้
ดังนั้นเราต้องพิจารณาให้ดีนะครับ
ประวัติสุขภาพถ้าเราไม่สะดวกไปเอง สามารถให้ตัวแทนไปบริการรับแทนได้นะครับ เพียงเราเซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ตัวแทน ส่วนค่าบริการขอประวัติสุขภาพทางโรงพยาบาลจะคิดค่าขอประวัติเราด้วยนะครับ (ผมเคยเจอก็ราคา 300 บาท)
งบประมาณ

เราตั้งงบประมาณที่เราไหวได้เลย ลองให้ตัวแทนคิดคำนวณออกมาตามงบของเราเองได้ พอได้ทุนประกันหรือแบบประกันออกมาแล้ว เราก็มาดูว่าเพียงพอกับเป้าหมายเราหรือไม่ สามารถให้ตัวแทนปรับ ลด หรือ เพิ่ม ได้เช่นกัน
อายุ

ยิ่งอายุเยอะ เบี้ยจะสูงขึ้น ยิ่งมีประวัติสุขภาพก็มีแนวโน้มที่เบี้ยจะสูงเช่นกัน อาชีพก็มีผลนะครับ อาชีพไหนมีความเสี่ยงเยอะก็มีโอกาสเพิ่มเบี้ยเช่นกัน ยกตัวอย่างให้ดู 1 แบบนะครับ
ประกันคุ้มครองชีวิต ทุนประกัน 500,000 บาท แบบชำระที่ 20 ปี กรณีไม่สูบบุหรี่ แบบนี้จะเบี้ยคงที่ตลอด 20 ปี
| อายุ | เพศชาย | เพศหญิง |
|---|---|---|
| 50 ปี | 21,200 | 17,840 |
| 55 ปี | 24,765 | 21,220 |
| 60 ปี | 29,820 | 25,350 |
| 65 ปี | 37,445 | 31,555 |
| 70 ปี | 48,265 | 40,715 |
เงื่อนไขของกรมธรรม์
- เมื่อเราทำประกันแล้ว ขอให้อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้เข้าใจ หากไม่เข้าใจถามตัวแทนเราได้เช่นกัน
- คุ้มครองอะไรบ้าง หรือ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง ดูเงื่อนไขในท้ายเล่มได้ มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง เช่น เมาแล้วขับ ผู้รับผลประโยชน์ฆ่าผู้เอาประกัน ฆ่าตัวตาย เป็นต้น
- ระยะรอคอย ระยะห้ามเคลม กี่วัน วันที่ต่างๆ เช่น คุ้มครองเมื่อไหร่ วันครบกำหนดชำระเบี้ย
- สิทธิ์ประโยชน์ มีอะไรบ้าง เช่น ได้ตรวจสุขภาพฟรี ได้วัคซีนฟรี หรือมีส่วนลด Vitality ผ่อนบัตรเครดิต 0% เป็นต้น
- วิธีการเคลม fax claim ได้ไหม โรงพยาบาลที่ไปบ่อยๆ มีค่าห้องเท่าไหร่ ใช้อะไรในการเคลม
“ทำประกันตั้งแต่สุขภาพยังดีนะครับ“
หากต้องการให้ผมช่วยวางแผน สามารถติดต่อมาได้นะครับ


Leave a comment